#ເອົາເງິນຖວາຍພຣະ / ພຣະຮັບເງິນ ເປັນການທຳລາຍສາດສະໜາ ບາບທັງຜູ້ໃຫ້ແລະຜູ້ຮັບ
...ก็จักมีในอนาคต ในเมื่อศาสนาของตถาคตเสื่อมโทรมนั่นแล ด้วยว่าในกาลภายหน้า พวกภิกษุอลัชชีเห็นแก่ปัจจัย จักมีมาก พวกเหล่านั้น จักพากันแสดงธรรมเทศนาที่ตถาคต กล่าวติเตียนความละโมภในปัจจัยไว้แก่ชนเหล่าอื่นเพราเหตุแห่งปัจจัย ๔ มีจีวรเป็นต้น จักไม่สามารถแสดงให้พ้นจากปัจจัยทั้งหลาย แล้วตั้งอยู่ในฝ่ายธรรมนำสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ มุ่งตรงสู่พระนิพพาน ชนทั้งหลายก็จะฟังความสมบูรณ์แห่งบทละพยัญชนะ และสำเนียงอันไพเราะอย่างเดียว เท่านั้น แล้วจักถวายเอง และยังชนเหล่าอื่นให้ถวายซึ่งปัจจัยทั้งหลายมีจีวรเป็นต้น อันมีค่ามาก ภิกษุทั้งหลายอีกบางพวก จักพากันนั่งในที่ต่าง ๆ มีท้องถนน สี่แยก และประตูวังเป็นต้น แล้ว แสดงธรรมแลกรูปิยะ...
ເມື່ອເຮັດໃຫ້ສາດສະໜາເສື່ອມໂຊມ ຍ່ອມປະສົບບາບ ບໍ່ແມ່ນບຸນເປັນອັນມາກ ເພາະເປັນການກະທຳທີ່ຊົ່ວ (ບາງຄົນອາດຄິດວ່າ ຍິ່ງໃຫ້ຍິ່ງໄດ້ບຸນ ເພາະເປັນການໃຫ້ ຖ້າຄິດແບບນັ້ນ ຄັນຊັ້ນ ເອົາຢາບ້າໃຫ້ຄົນອື່ນກໍໄດ້ບຸນຄືກັນຕິ ເພາະມັນກະຄື "ການໃຫ້")
...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ชักชวนเข้าในธรรมวินัยที่กล่าวไว้ชั่ว ๑ ผู้ที่ถูกชักชวนแล้วปฏิบัติเพื่อความเป็นอย่างนั้น ๑ คนทั้งหมดนั้น ย่อมประสบกรรมมิใช่บุญเป็นอันมาก ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะธรรมท่านกล่าวไว้ชั่ว...
ກໍລະນີຕົວຢ່າງ ຕະກຸນປະມານ 500 ທີ່ຝັກໃຝ່ໃນການກະທຳຊົ່ວກັບພຣະ ໄດ້ໄປເກີດໃນນະຣົກ
...และตระกูลประมาณ ๕๐๐ ที่ฝักใฝ่กับพระเทวทัตยึดมั่นในลัทธิของพระเทวทัตนั้น พร้อมด้วยพวกก็ไปเกิดในนรก...
ອ້າງຍຸກສະໄໝ ອ້າງຄ່າໃຊ້ຈ່າຍ ? ບໍ່ກ່ຽວກັບຍຸກສະໄໝ ພຣະທັມເປັນອະກາລິໂກ (ບໍ່ປະກອບດ້ວຍການ) ບາບບຸນບໍ່ປະກອບດ້ວຍການ ທຳບາບເມື່ອໃດ ບາບເມື່ອນັ້ນ ທຳບຸນເມື່ອໃດ ເປັນບຸນເມື່ອນັ້ນ ດັ່ງທີ່ຕັດໄວ້ວ່າ ...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริต ด้วยกายด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้านั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลากลางวัน เวลากลางวันนั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดพระพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเย็น เวลาเย็นนั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น
ແລະພຣະພຸດທະເຈົ້າກໍໄດ້ສອນໄວ້ແລ້ວ ວິທີປະຕິບັດໃນເລື່ອງເງິນແລະທອງ ເມື່ອມີຜູ້ມາຖວາຍ ເຊັ່ນ ທ່ອນນີ້ ຄະຫັດບໍດີ ເປັນຜູ້ດູແລຈັດການ ກັ່ນກອງບໍ່ເອົາສິ່ງທີ່ເປັນ ອະກັບປິຍະໃຫ້ແກ່ພຣະ (ເບິ່ງຕື່ມ ທີ່ກ່ຽວຂ້ອງ )
...มีอยู่ ภิกษุทั้งหลาย ชาวบ้านที่มีศรัทธาเลื่อมใส เขามอบเงินทองไว้ในมือกัปปิยการกสั่งว่า สิ่งใดควรแก่พระผู้เป็นเจ้า ขอท่านจงถวายสิ่งนั้นด้วยกัปปิยภัณฑ์นี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ยินดีของอันเป็นกัปปิยะจากกัปปิยภันฑ์นั้นไว้ แต่เรามิได้กล่าวว่า พึงยินดี พึงแสวงหาทองและเงินโดยปริยายไร ๆ เลย...
ຄະຫັດບໍດີ ແລະ ບັນພະຊິດທັງຫຼາຍ ຕ່າງອາໄສຊຶ່ງກັນແລະກັນ ຄະຫັດບໍດີເປັນຜູ້ຈັດການເລື່ອງອາມິດ ບໍ່ແມ່ນພຣະໄປຈັດການເອງ ສ່ວນພຣະມີໜ້າທີ່ຕອບແທນຄະຫັດດ້ວຍການສະແດງທັມ ບໍ່ລະເມີດພຣະທັມວິໄນ ເຮັດຕົນໃຫ້ເປັນຜູ້ມີຄຸນ ເພື່ອທີ່ທາຍົກມາທຳບຸນນຳແລ້ວຈະເປັນບຸນກຸສົນຫຼາຍແກ່ເຂົາ
[๒๘๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลายเป็นผู้มีอุปการะมากแก่เธอทั้งหลาย บำรุงเธอทั้งหลายด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร แม้เธอทั้งลายก็จงเป็นผู้มีอุปการะมากแก่พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย จงแสดงธรรมอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงแก่พราหมณ์และคฤหบดีเหล่านั้นเถิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คฤหัสถ์และบรรพชิตทั้งหลาย ต่างอาศัยซึ่งกันและกันด้วยอำนาจอามิสทานและธรรมทาน อยู่ประพฤติพรหมจรรย์นี้ เพื่อต้องการสลัดโอฆะเพื่อจะทำซึ่งที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบด้วยประการอย่างนี้