#ເປັນຫຍັງບໍ່ຄວນເອົາຮູບປັ້ນມາເປັນທີ່ເພິ່ງ ?
...พระเถระนี้เป็นหัวหน้าช่าง พูดขึ้นว่า มาเถิดท่านผู้เจริญทั้งหลาย ควรจะทำให้ปฏิบัติได้สะดวกในอนาคต ดังนี้แล้ว จึงเอาเชือกวงแล้วหยุดอยู่ในที่สุดคาวุตหนึ่ง จึงกล่าวว่า ค้านหนึ่งๆ ได้คาวุตหนึ่ง ๆ จักเป็นเจดีย์กลมโยชน์หนึ่ง สูงโยชน์หนึ่ง ชนเหล่านั้นก็เชื่อถือถ้อยคำของหัวหน้าช่างนั้น ๆ ได้กระทำขนาดประมาณแห่งพระพุทธเจ้าผู้หาประมาณมิได้ ด้วยประการดังนี้แล ก็ด้วยกรรมนั้น หัวหน้าช่างนั้น จึงเป็นผู้มีขนาดต่ำกว่า อื่น ๆ ในที่ที่เกิดแล้ว ๆ
ບໍ່ມີໃຜວັດຂະໜາດພຣະຕະຖາຄົດໄດ້ ພຣະຕະຖາຄົດນັບຄຳນວນບໍ່ໄດ້ ປະມານບໍ່ໄດ້ ບໍ່ສາມາດປັ້ນ ຫຼື ແຕ້ມໃຫ້ເປັນຮູບລັກສະນະຕ່າງໆໄດ້
...ภ. พราหมณ์ แม้หากว่าท่านเอาไม้ไผ่มาต่อจนเต็มห้องจักรวาลทั้งสิ้นแล้ว ยืนเทียบอยู่ในที่ใกล้ ท่านก็ไม่อาจวัดขนาดของเราได้ เพราะเราบำเพ็ญบารมีมาสิ้นสี่อสงไขยแสนกัป โดยประการที่คนอื่นจะพึงวัดขนาดของเรานั้นหามิได้ พระตถาคตนับคำนวณไม่ได้ ประมาณไม่ได้...
ແລ້ວຜູ້ສ້າງຮູບປັ້ນໃຫ້ເປັນຕົວແທນ ໃຫ້ເປັນສັນຍາລັກຂອງພຣະພຸດທະເຈົ້າ ເຮັດໃຫ້ເປັນຮູບລັກສະນະຕ່າງໆ ເຊັ່ນ ມີພຣະສຽນແຫຼມ ຫຼື ແຕ້ມຮູບໃຫ້ຫົວໂຫຼ້ນໄປເລີຍກໍມີ ແບບນີ້ຊິມີຜົນຫັມແນວໃດ ?
ນອກຈາກນີ້ ຍັງມີຫຼາຍເລື່ອງ ເວົ້າເຖິງການຕາຍຄາຄວາມອາໄລໃນສິ່ງໃດ ກໍຈະໄດ້ໄປເກີດຢູ່ກັບສິ່ງນັ້ນ ເຊັ່ນ ເລື່ອງນີ້