#ພຣະຣັດຕະນະໄຕບໍ່ແມ່ນວັດຖຸ
ໃນເລື່ອງດ້ານລຸ່ມນີ້ ຕັດເຖິງຄວາມຕ່າງລະຫວ່າງ "ວັດຖຸ" ກັບ "ພຣະພຸດ ພຣະທັມ ພຣະສົງ" ໄວ້ຢ່າງຊັດເຈນ ໂດຍຕັດວ່າ ໃຜເອົາວັດຖຸມາເປັນທີ່ເພິ່ງ ຍ່ອມບໍ່ພົ້ນຈາກທຸກໄປໄດ້ ສ່ວນໃຜເອົາພຣະພຸດ ພຣະທັມ ພຣະສົງ ເປັນທີ່ເພິ່ງຍ່ອມພົນຈາກທຸກໄປໄດ້ ກໍໝາຍຄວາມວ່າ ພຣະພຸດ ພຣະທັມ ພຣະສົງ ບໍ່ແມ່ນວັດຖຸນັ້ນເອງ
...พระศาสดาตรัสว่า "อัคคิทัต บุคคลถึงวัตถุทั้งหลายมีภูเขาเป็นต้นนั่นว่าเป็นที่พึ่งแล้ว ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ได้เลย ส่วนบุคคลถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง ย่อมพ้นจากทุกข์ในวัฏฏะทั้งสิ้นได้"...
...มนุษย์เป็นอันมาก ถูกภัยคุกคามแล้ว ย่อมถึงภูเขา ป่า อาราม และรุกขเจดีย์ว่าเป็นที่พึ่ง สรณะนั่นแลไม่เกษม สรณะนั่นไม่อุดม เพราะบุคคลอาศัยสรณะนั่น ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ ส่วนบุคคลใดถึง พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นที่พึ่ง ย่อมเห็นอริยสัจ ๔ (คือ) ทุกข์เหตุให้เกิดทุกข์ ความก้าวล่วงทุกข์ และมรรคมีองค์ ๘ อันประเสริฐ ซึ่งยังสัตว์ให้ถึงความสงบแห่งทุกข์ ด้วยปัญญาชอบ สรณะนั่นแลของบุคคลนั้นเกษม สรณะนั่นอุดม เพราะบุคคลอาศัยสรณะนั่น ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้...
ຄຳວ່າ "ວັດຖຸ" ມີຄວາມໝາຍຊັດເຈນຢູ່ໃນຕົວຢູ່ແລ້ວ ບໍ່ວ່າຈະເປັນຮູບໃດໆ ທີ່ຈະພຶ່ງຮູ້ແຈ້ງດ້ວຍຈັກຂຸ ຈະຢູ່ໃນໂລກນີ້ ຫຼື ໂລກອື່ນ ແລະຈະຢູ່ໃນອາກາດ ມີລັດສະໝີຮຸ່ງເຮືອງກໍຕາມ ໝາຍເຖິງຮູບທັງໝົດເລີຍ ບໍ່ແມ່ນສະຣະນະ ແຕ່ເປັນບ່ວງແຫ່ງມານ.
...รูปใด ๆ จะอยู่ในโลกนี้หรือโลกอื่นและจะอยู่ในอากาศ มีรัศมีรุ่งเรืองก็ตามที่รูปทั้งหมดเหล่านั้น อันมารสรรเสริญแล้ววางดักสัตว์ไว้แล้ว เหมือนเขาใส่เหยื่อล่อเพื่อฆ่าปลา ฉะนั้น
...[๑๖๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูปที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก อาศัยความใคร่ ชวนให้กำหนัด มีอยู่ หากภิกษุเพลิดเพลินสรรเสริญ หมกมุ่น พัวพันรูปนั้น ภิกษุนี้เรากล่าวว่าไปสู่ที่อยู่ของมาร ตกอยู่ในอำนาจของมาร ถูกมารคล้อง รัด มัดด้วยบ่วงภิกษุนั้นพึงถูกมารผู้มีบาปใช้บ่วงทำได้ตามปรารถนา ฯลฯ...
ແຕ່ບາງຄົນກໍຍົກເອົາເລື່ອງທີ່ເວົ້າເຖິງການບູຊາພຣະທາດເຈດີ ມາອ້າງອີງວ່າ ພຣະທາດ (ທີ່ເປັນວັດຖຸ) ເປັນສະຣະນະ ແຕ່ທີ່ຈິງບໍ່ແມ່ນເລີຍ ການບູຊານັ້ນ ເປັນພຽງອົງປະກອບທີ່ເກີດໂລກີຍະກຸສົນເທົ່ານັ້ນ ສິ່ງໃດທີ່ເຮັດແລ້ວໄດ້ບຸນກໍເປັນອີກເລື່ອງໜຶ່ງ ສິ່ງໃດທີ່ເປັນສະຣະນະກໍເປັນອີກເລື່ອງໜຶ່ງ ດັ່ງອັດຖະກະຖາດ້ານລຸ່ມນີ້ອະທິບາຍໄວ້
......ถามว่า ก็เพราะเหตุไร พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสรรเสริญวิบาก ที่แม้พระพุทธญาณก็กำหนดไม่ได้ของการบูชา ที่บุคคลถือเพียงดอกฝ้ายดอกเดียวระลึกถึงพระพุทธคุณบูชาแล้วไว้ในที่อื่น ในที่นี้กลับทรงคัดค้านการบูชาใหญ่อย่างนี้ ตอบว่า เพราะเพื่อจะทรงอนุเคราะห์บริษัทอย่างหนึ่ง เพื่อประสงค์จะให้พระศาสนาดำรงยั่งยืนอย่างหนึ่ง จริงอยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ไม่พึงคัดค้านอย่างนั้นไซร้ ต่อไปในอนาคต พุทธบริษัทก็ไม่ต้องบำเพ็ญศีลในฐานะที่ศีลมาถึง จักไม่ให้สมาธิบริบูรณ์ในฐานะที่สมาธิมาถึง ไม่ให้ถือห้องคือวิปัสสนาในฐานะที่วิปัสสนามาถึง ชักชวนแล้วชักชวนอีก ซึ่งอุปัฏฐากกระทำการบูชาอย่างเดียวอยู่ จริงอยู่ชื่อว่าอามิสบูชานั้น ไม่สามารถจะดำรงพระศาสนาแม้ในวันหนึ่งบ้าง แม้ชั่วดื่มข้าวยาคูครั้งหนึ่งบ้าง จริงอยู่ วิหารพันแห่งเช่นมหาวิหาร เจดีย์พันเจดีย์ เช่น มหาเจดีย์ ก็ดำรงพระศาสนาไว้ไม่ได้ บุญูผู้ใด ทำไว้ก็เป็นของผู้นั้นผู้เดียว ส่วนสัมมาปฏิบัติ ชื่อว่าเป็นบูชาที่สมควรแก่พระตถาคต เป็นความจริงปฏิบัติบูชานั้นชื่อว่าดำรงอยู่แล้ว สามารถดำรงพระศาสนาไว้ได้ด้วย...
ມັນເປັນໄປບໍ່ໄດ້ດອກ ບຸກຄົນທີ່ເອົາແຕ່ຖືດອກໄມ້ບູຊາພຣະທາດ ຈະເປັນຜູ້ພົ້ນໄປຈາກທຸກໄປໄດ້ ເຖິງແມ່ນວ່າຈະເປັນໂລກີຍະກຸສົນກໍຕາມ ເຈົ້າຈະບໍ່ປະໝາດໃນເລື່ອງອື່ນເລີຍຫວາ ? ແລ້ວເມື່ອປະໝາດ ເຈົ້າຈະໄດ້ເກີດມາພົບພຣະທາດທຸກຊາດຫວາ ? ຍິ່ງແລ້ວຖ້າໄປບູຊາສິ່ງອື່ນທີ່ບໍ່ແມ່ນພຣະທາດ ມັນຍິ່ງຊິບໍ່ໄກອອກໄປຫວາ ?
ຄວາມຮູ້ທີ່ຄົນຮູ້ຈັກບູຊາພຣະທາດ ຄວາມຮູ້ນັ້ນກໍມາຈາກພຣະທັມທັງນັ້ນ ເຂົາຮູ້ຈັກເຮັດສິ່ງນັ້ນ ກໍເພາະອາໄສພຣະທັມ ເຂົາຮູ້ຈັກອ້າງອີງການເຮັດສິ່ງນັ້ນກໍເພາະອາໄສພຣະທັມ ເຂົາຮູ້ຈັກເວົ້າສິ່ງນັ້ນ ກໍເພາະອາໄສພຣະທັມ ແລ້ວພຣະທັມກໍຄືສະຣະນະ ແຕ່ພັດໄປມອງວ່າ ວັດຖຸເປັນສະຣະນະ ... ງົງ.
ຄຳທີ່ພຣະອົງຕັດວ່າ "ຈົ່ງມີທັມເປັນເກາະ ມີທັມເປັນສະຣະນະ ຢ່າມີສິ່ງອື່ນເປັນສະຣະນະເລີຍ" ຊັດເຈນຫຼາຍ ຍັງຊິໄປໝາຍຄວາມວ່າໃຫ້ເອົາວັດຖຸມາເປັນທີ່ເພິ່ງອີກຫວາ ?
...อานนท์ เธอทั้งหลายจงมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นสรณะอยู่เถิด อย่ามีสิ่งอื่นเป็นสรณะ จงมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นสรณะ อย่ามีสิ่งอื่นเป็นสรณะเลย
ພຣະພຸດທະເຈົ້າຊົງອຸບັດຂຶ້ນ ຫຼື ຍັງບໍ່ອຸບັດຂຶ້ນກະຕາມ (ມີຕົວພຣະພຸດທະເຈົ້າຫຼືບໍ່ມີ) ພຸດທະກໍຍັງມີຢູ່ ສັດຈະທັມກໍຍັງມີຢູ່ ພຣະພຸດທະເຈົ້າຕັດສະຮູ້ບັນລຸທັມນັ້ນ ເມື່ອຕັດສະຮູ້ແລ້ວ ກໍເອົາມາບອກ ...
...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปฏิจจสมุปบาท เป็นไฉน ? เพราะชาติเป็นปัจจัยจึงมีชรามรณะ พระตถาคตทรงอุบัติก็ตาม ยังไม่ทรงอุบัติก็ตาม ธาตุนั้นเป็นธรรมฐิติ - ยังตั้งอยู่โดยธรรมดา เป็นธรรมนิยาม - ความแน่นอนอยู่โดยธรรมดา เป็นอิทัป-ปัจจยตา - ความอาศัยกันเกิดขึ้นยังคงมีอยู่ พระตถาคตตรัสรู้บรรลุธรรมนั้น ครั้นตรัสรู้แล้ว บรรลุแล้ว ทรงบอก ทรงแสดง ทรงบัญญัติ ทรงตั้งทรงเปิดเผย ทรงจำแนก ทรงทำให้ง่าย ตรัสว่าพวกเธอจงเห็น ดังนี้...