#ຕາຍຄາຄວາມອາໄລໃນວັດຖຸ ເຊັ່ນ ຮູບປັ້ນ ຈະໄດ້ໄປເກີດເປັນສັດເດຍລະສານຢູ່ກັບວັດຖຸນັ້ນ
ญาติทั้งหลายในภพก่อนของท่าน เกิดเป็นปลาเป็นเต่าและเป็นกบ ด้วยความโลภอันเนื่องอยู่ในปราสาท เมื่อปราสาทนั้น ถูกยกขึ้นก็หล่นตกลงไปในน้ำ พระศาสดาเห็นสัตว์เหล่านั้นตกลงไป จึงตรัสว่า ภัททชิ ญาติทั้งหลายของเธอจะลำบาก
ພຣະອົງໜຶ່ງຕາຍຄາຄວາມອາໄລໃນຈີວອນ ໄດ້ເກີດເປັນເລັນທີ່ຈີວອນນັ້ນ
...ท่านแลดูจีวรแล้ว เกิดความเยื่อใยในจีวรนั้น คิดว่า "ในวันพรุ่งนี้ เราจักห่มจีวรนั้น" แล้วพับพาดไว้ที่สายระเดียง ในราตรีนั้น ไม่สามารถให้อาหารที่ฉันแล้วย่อยไปได้ มรณภาพแล้ว เกิดเป็นเล็นที่จีวรนั้นนั่นเอง...
ຕາຍຄາຄວາມອາໄລໃນຊັບ ໄດ້ເກີດເປັນເປດໃນທີ່ນັ້ນ
...ฝ่ายคฤหบดีนั้น ซ่อนกหาปณะไว้ที่กอไม้แห่งหนึ่งแล้ว แอบอยู่ในที่ไม่ไกล พวกโจรจับคฤหบดีนั้นฆ่าทิ้งเสีย เพราะความโลภในทรัพย์ เขาจึงบังเกิดเป็นเปรตในที่นั้นนั่นเอง...
ຝັງຊັບໄວ້ ຕາຍຄາຄວາມອາໄລໃນຊັບທີ່ຝັງໄວ້ນັ້ນ ໄດ້ເກີດເປັນງູເຝົ້າຊັບນັ້ນ
...ก็ในกาลนั้น เศรษฐีชาวเมืองพาราณสีผู้หนึ่ง ฝังทรัพย์ ๔๐ โกฏิไว้ที่ฝั่งแม่น้ำ เพราะความเป็นห่วงทรัพย์ ตายไปจึงไปเกิดเป็นงูอยู่เหนือขุมทรัพย์...
ຍິນດີໃນຮູບໃນຂະນະຕາຍ ນະຣົກຫຼືກຳເນີດສັດເດຍລະສານຢ່າງໃດຢ່າງໜຶ່ງ ເປັນຖານະທີ່ຈະມີໄດ້
...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลแทงจักขุนทรีย์ด้วยหลาวเหล็กอันร้อนไฟติดลุกโพลงแล้ว ยังดีกว่า การถือนิมิตโดยอนุพยัญชนะในรูป อันจักขุวิญญาณพึงรู้แจ้ง จะดีอะไร วิญญาณอันตะกรามด้วยความยินดีในนิมิต หรือตะกรามด้วยความยินดีในอนุพยัญชนะ เมื่อตั้งอยู่ก็พึงตั้งอยู่ได้ ถ้าบุคคลพึงทำกาลกิริยาเสียในสมัยนั้นไซร้ ข้อที่บุคคลจะพึงเข้าถึงคติ ๒ อย่าง คือ นรกหรือกำเนิดสัตว์เดียรฉานอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราเห็นโทษอันนี้ จึงกล่าวอย่างนี้
ນອກຈາກນີ້ຍັງມີ ເປດວິໄສອີກດ້ວຍ ດັ່ງນັ້ນ ພຣະພຸດທະເຈົ້າຈຶ່ງສອນໃຫ້ເອົາພຣະພຸດພຣະທັມພຣະສົງມາເປັນທີ່ເພິ່ງ ບໍ່ແມ່ນເອົາຮູບປັ້ນ ຫຼື ເອົາວັດຖຸຕ່າງໆ ມາເປັນທີ່ເພິ່ງ ແລະຄວນເຝິກຕົນເອງໄປຕັ້ງແຕ່ຕອນນີ້ .