#ຄວາມເຂົ້າໃຈຜິດ ເລື່ອງສູດມົນແບບບໍ່ຮູ້ເລື່ອງຊື່ໆ (ແປບໍ່ໄດ້ ບໍ່ເຂົ້າໃຈຄວາມໝາຍ) ກໍໄດ້ບຸນ ທີ່ຈິງແລ້ວຄືການປະຕິບັດທີ່ຜິດ
ຜູ້ທີ່ສູດມົນແບບບໍ່ຮູ້ເລື່ອງຊື່ືໆ ບໍ່ເຂົ້າໃຈຄວາມໝາຍ ແປບໍ່ໄດ້ ພຣະພຸດທະເຈົ້າເອີ້ນວ່າ ໂມຄະບຸລຸດ ເປັນຜູ້ປະຕິບັດຜິດ ຫ່າງໄກຫຼາຍຈາກທັມວິໄນນີ້ ເມື່ອເປັນແບບນີ້ ມັນຈະເປັນກຸສົນໄດ້ແນວໃດ ?
...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ศรัทธาก็ดี การเข้าไปใกล้ก็ดี การนั่งใกล้ก็ดี การเงี่ยโสตลงก็ดี การฟังธรรมก็ดี การทรงจำธรรมก็ดี การพิจารณาเนื้อความก็ดี ธรรมอันได้ซึ่งความพินิจก็ดี ฉันทะก็ดี อุตสาหะก็ดี การไตร่ตรองก็ดี การตั้งความเพียรก็ดี นั้น ๆ ไม่ได้มีแล้ว เธอทั้งหลายย่อมเป็นผู้ปฏิบัติพลาด ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติผิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษเหล่านี้ได้หลีกไปจากธรรมวินัยนี้ ไกลเพียงไร...
ພຣະສູດນີ້ ຕັດໄວ້ຊັດເຈນວ່າ ການສູດບໍ່ແມ່ນເຫດແຫ່ງກຸສົນ ເອົາແຕ່ສູດວິ່ງວອນ ຫຼື ບໍ່ວິ່ງວອນກໍຕາມ ແຕ່ບໍ່ທຳຄວາມດີ ກໍໄປອະບາຍ ທຸກຄະຕິ ວິນິບາດ ນະຣົກ.
...พ. ดูก่อนนายคามณี ฉันนั้นเหมือนกัน บุรุษคนใดฆ่าสัตว์ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ มากไปด้วยอภิชฌา มีจิตพยาบาท มีความเห็นผิด หมู่มหาชนพึงมาประชุมกันแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบบุรุษนั้นว่า ขอบุรุษนี้เมื่อตายไป จงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ก็จริง แต่บุรุษนั้นเมื่อตาย พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก...
ການບໍ່ພິຈາລະນາໃຫ້ເຂົ້າໃຈຄວາມໝາຍ ເປັນການຮຽນທີ່ບໍ່ດີ ເພາະພຣະພຸດທະເຈົ້າຕັດໄວ້ວ່າ ປະຣິຍັດປຽບດ້ວຍງູພິດ ຍ່ອມເປັນໄປເພື່ອບໍ່ເປັນປະໂຫຍດ ເພື່ອທຸກສິ້ນການລະນານ.
...ปริยัติใด อันบุคคลเรียนไม่ดีคือเรียนเพราะเหตุมีการโต้แย้งเป็นต้น ปริยัตินี้ ชื่อว่า ปริยัติเปรียบด้วยงูพิษ ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายตรัสไว้ว่า ภิกษุทั้งหลาย ! เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีความต้องการด้วยงูพิษ เที่ยวเสาะแสวงหางูพิษ เขาพึงพบงูพิษตัวใหญ่พึงจับงูพิษนั้นที่ขนดหรือที่หาง งูพิษนั้นพึงแว้งกัดเขาที่มือหรือแขน หรือที่อวัยวะน้อยใหญ่แห่งใดแห่งหนึ่ง เขาพึงถึงความตายหรือความทุกข์ปางตายซึ่งมีการกัดนั้นเป็นเหตุ ข้อนั้นเพราะอะไรเป็นเหตุ ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะงูพิษเขาจับไม่ดี แม้ฉันใด ภิกษุทั้งหลาย ! โมฆบุรุษบางพวกในธรรมวินัยนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมเล่าเรียนธรรมคือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะคาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ พวกเขาครั้นเรียนธรรมนั้นแล้ว ย่อมไม่พิจารณาแห่งธรรมเหล่านั้นด้วยปัญญา ธรรมเหล่านั้นย่อมไม่ควรต่อการเพ่งพินิจแก่พวกเขา ผู้ไม่พิจารณาอรรถด้วยปัญญาพวกเขาเรียนธรรมมีการโต้แย้งเป็นอานิสงส์ และมีหลักการบ่นเพ้อว่าอย่างนี้เป็นอานิสงส์ และย่อมไม่ได้รับประโยชน์แห่งธรรมที่พวกกุลบุตรต้องประสงค์เล่าเรียน ธรรมเหล่านั้นที่เขาเรียนไม่ดี ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์ เพื่อทุกข์ สิ้นกาลนาน แก่โมฆบุรุษเหล่านั้น ข้อนั้นเพราะอะไรเป็นเหตุ ? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ข้อนั้นเพราะธรรมทั้งหลายอันโมฆบุรุษเหล่านั้นเรียนไม่ดี...
ສູດມົນຕ້ອງຮູ້ຄວາມໝາຍ
...พระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งละเอียดอ่อนด้วยนัยต่าง ๆ เกิดขึ้นด้วยอัธยาศัยอันกว้างขวางสมบูรณ์ด้วยอรรถและพยัญชนะมีปฏิหาริย์หลากหลาย ลึกซึ้งโดยธรรม โดยอรรถ โดยเทศนา แลโดยปฏิเวธ มาสู่โสตประสาทของสัตว์ทั้งปวง โดยสมควรแก่ภาษาของตน ๆ โดยประการทั้งปวง และทั้งให้เกิดความอยากฟังโดยเต็มกำลัง...
ໃນຫຼັກພຣະພຸດທະສາດສະໜາ ທ່ອງຈຳໄດ້ຖືກຕ້ອງແລ້ວພິຈາລະນາເນື້ອຄວາມ (ເຂົ້າໃຈຄວາມໝາຍ) ຈຶ່ງຈະເກີດຜົນ ດັ່ງໃນເລື່ອງນີ້
...เมื่อท่องอยู่ด้วยอำนาจแห่งนิสสรณะและปริยัติ คือท่องตลอดเวลามากกว่าได้ยินว่า ภิกษุนั้นปัดกวาดที่พักกลางวันของอาจารย์แล้วยืนดูอาจารย์ เมื่อเห็นอาจารย์นั้นกำลังเดินมา จึงลุกขึ้นไปรับบาตรและจีวร เมื่ออาจารย์นั่งบนอาสนะที่ปูไว้แล้ว ก็เอาพัดใบตาลพัดให้ บอกน้ำฉันให้ ล้างเท้า ทาน้ำมันไหว้แล้วยืนเรียนอุเทศทำการท่องตลอดถึงพระอาทิตย์ตก ภิกษุนั้น เอาน้ำเข้าไปตั้งไว้ในซุ้ม จุดไฟในเตาก่อน เมื่ออาจารย์อาบน้ำมาแล้ว ก็เช็ดน้ำที่เท้า นวดหลัง ไหว้แล้วเรียนอุเทศ ทำการท่องในปฐมยาม พักผ่อนร่างกายในมัชฌิมยาม ลุกขึ้นในปัจฉิมยาม เรียนอุเทศทำการท่องจนถึงอรุณขึ้นแล้ว จึงพิจารณาเสียงที่ดับไปแล้ว โดยความสิ้นไป เจริญวิปัสสนาในขันธ์ ๕ คืออุปาทายรูปที่เหลือจากนั้น ภูตรูป นามรูปแล้วบรรลุพระอรหัต
ສວດມົນບໍ່ຖືກຫຼັກພາສາມະຄົດ ກໍຈະເປັນການທຳລາຍສາດສະໜານຳ
...ภิกษุทั้งหลายในพระวินัยนี้ เล่าเรียนสูตรอันถือกันมาผิดด้วยบทพยัญชนะที่ใช้ผิด เนื้อความแห่งบทพยัญชนะที่ใช้ผิด ย่อมมีนัยอันผิดไปด้วยนี้ธรรมประการที่ ๑ เป็นเหตุให้พระสัทธรรมเลอะเลือนอันตรธานไป...
ສູດມົນແບບບໍ່ຮູ້ເລື່ອງ ບໍ່ຮູ້ຄວາມໝາຍ ແປບໍ່ໄດ້ ກໍເປັນການ ທຳທ່າສູດມົນເພື່ອລວງໂລກ
บทว่า กุหา ได้แก่ เป็นคนลวงโลก ด้วยวัตถุเครื่องล่อลวง มีการร่ายมนต์เป็นต้น คือทำการล่อลวง เพื่อปรารถนาจะยกย่องคุณที่ไม่มีอยู่ให้ปรากฏเป็นสิ่งประหลาดแก่ชนเหล่าอื่น
ສາທະຍາຍທັມ ຕ້ອງເຂົ້າໃຈຄວາມໝາຍ
...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีผู้อยู่ในฐานะครูบางรูป ก็ไม่ได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ แม้ภิกษุก็ไม่ได้แสดงธรรมเท่าที่ได้สดับ ได้ศึกษาเล่าเรียนมาแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดาร ก็แต่ว่าภิกษุย่อมทำการสาธยายธรรมเท่าที่ได้สดับ ได้ศึกษาเล่าเรียนมาโดยพิสดารเธอย่อมเข้าใจอรรถ เข้าใจธรรม ในธรรมนั้น ตามที่ภิกษุสาธยายธรรมเท่าที่ได้สดับ ได้ศึกษาเล่าเรียนมาโดยพิสดาร เมื่อเธอเข้าใจอรรถ เข้าใจธรรมย่อมเกิดปราโมทย์...เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นเหตุแห่งวิมุตติข้อ ๓...
ສູດແບບບໍ່ຮູ້ເລື່ອງ ແລະກໍໄປມີຄວາມເຫັນວ່າ ການສູດນັ້ນດີແບບນັ້ນແບບນີ້ ໄປມີຄວາມເຫັນແບບນີ້ ກໍເປັນການຖືລັກສະນະງົມງາຍ ຖືມຸງຄຸນຕື່ນຂ່າວ ມີໂທດ
ผู้ใดไม่ถือมงคลตื่นข่าว ไม่ถืออุกกาบาตไม่ถือความฝัน ไม่ถือลักษณะดีหรือชั่ว ผู้นั้นชื่อว่าล่วงพ้นโทษแห่งการถือมงคลตื่นข่าวครอบงำกิเลสเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพที่เป็นคูกั้น ย่อมไม่กลับมาเกิดอีก
ບາງຄົນເບິ່ງຜິວເຜີນ ອາດໄປຕີຄວາມໝາຍວ່າ ການສູດມົນ ແບບບໍ່ຮູ້ເລື່ອງ ກໍຈັດເປັນການສະແດງທັມ ມີຢູ່ໃນ ບຸນກິຣິຍາວັດຖຸ 10 ປະການ ກ່າວວ່າເປັນບຸນ ຈົບເລີຍ ປິດຕຳລາໄວ້ ແບບນີ້ ມັນຕື້ນໄປ ຖ້າເປັນແບບນີ້ ຄັນຊັ້ນ ຄຳເວົ້າທີ່ຄົນເວົ້າອອກມາກແບບບໍ່ຮູ້ ເຊັ່ນ ຄຳເວົ້າຂອງຄົນນອນລະເມີເວົ້າອອກມາ ຄຳເວົ້າຂອງຄົນເມົາສຸຣາເວົ້າອອກມາ ຄຳເວົ້າຂອງຄົນເປັນບ້າເວົ້າອອກມາ ກໍຈະເປັນການສະແດງທັມໄປໝົດເລີຍ.
ໝາຍເຫດ : ສາດສະໜາພຸດ ຄື ສາດສະໜາແຫ່ງຄວາມຮູ້