#ຂ້າສັດຂາຍກໍເປັນບາບ

ພຣະພຸດທະອົງຊົງເຫັນຄົນຂ້າປາ ຂ້າເນື້ອ ຂາຍຢູ່ ຈຶ່ງຊົງສະແດງໂທດຂອງການຂ້າສັດຂາຍ ແກ່ພິກຂຸທັງຫຼາຍວ່າ ຜູ້ປະກອບອາຊີບນັ້ນ ເຂົາຍ່ອມເພ່ງເບິ່ງສັດທີ່ຂ້າ ທີ່ນຳມາເພື່ອຂ້າ ດ້ວຍໃຈທີ່ເປັນບາບ ເພາະຜົນຂໍ້ນັ້ນ ເມື່ອຕາຍໄປແລ້ວຍ່ອມເຂົ້າເຖິງ ອະບາຍ, ທຸກຄະຕິ, ວິນິບາດ, ນະຣົກ

...พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ดีละ ข้อนั้นแม้เราก็ไม่ได้เห็นไม่ได้ฟังมาว่าพรานเนื้อ ฆ่าเนื้อขายอยู่ ย่อมขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน เป็นเจ้าของโภคะหรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ เพราะกรรมนั้น เพราะอาชีพนั้นข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าเขาย่อมเพ่งดูเนื้อเหล่านั้นที่พึงฆ่า ที่นำมาเพื่อฆ่าด้วยใจที่เป็นบาป ฉะนั้น เขาจึงไม่ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน ไม่ได้เป็นเจ้าของโภคะ ไม่ได้ครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ ก็เขาย่อมเพ่งดูสัตว์ดิรัจฉานเหล่านั้นที่พึงฆ่า ที่นำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาป ฉะนั้น เขาจึงไม่ได้ขี่ช้าง ขี่ม้า ขี่รถ ขึ้นยาน ไม่ได้เป็นเจ้าของโภคะ หรือครอบครองกองโภคสมบัติเป็นอันมากอยู่ จะกล่าวอะไร ถึงบุคคลผู้เพ่งดูมนุษย์ที่พึงฆ่าที่นำมาเพื่อฆ่า ด้วยใจที่เป็นบาปเล่า เพราะผลข้อนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ตลอดกาลนานแก่เขา เมื่อตายไปแล้วย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ฯลฯ

ເຖິງແມ່ນວ່າ ຜູ້ໃດກະທຳການຂ້າສັດຂາຍ ແຕ່ພັດຈະເລີນຂຶ້ນ ອັນນີ້ເປັນຍ້ອນບຸນເກົ່າຂອງເຂົາທີ່ໃຫ້ຜົນ ແຕ່ຄວາມຈະເລີນນັ້ນຈະບໍ່ໝັ້ນຍືນ ເພາະເຂົາຈະຖືກອະກຸສົນກັມນັ້ນຕັດຮອນລົງ

...ข้อนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ เพื่อทรงแสดงถึงความที่บาปกรรมมีผลที่ไม่ปรารถนา แต่เมื่อแม้ผู้ใดกระทำบาปกรรมเช่นนั้น ผู้นั้นกลับได้ยศ ข้อนั้นพึงเข้าใจว่ากุศลให้ผลแก่เขาเหล่านั้น โดยอาศัยอกุศลนั้น แต่วิบากจะไม่ยั่งยืนไปตลอดกาลนาน เพราะเขาจะถูกอกุศลกรรมนั้น ตัดรอน

ກະທູ້ທີ່ກ່ຽວຂ້ອງ :  #ຂ້າສັດທຳບຸນບາບບໍ່ ?  #ຂ້າສັດເພື່ອເປັນອາຫານບາບບໍ່ ?  #ຜົນແຫ່ງການຂ້າສັດທຳບຸນອຸທິດໃຫ້ຜູ້ຕາຍ  #ການກະທຳນັບເປັນກັມເປັນວາລະ (ຍົກເອົາຂໍ້ຂ້າສັດທຳບຸນໄດ້ບາບດ້ວຍເຫດ 5 ປະການມາທຽບ)