#ກຸສົນທີ່ສາມາດເຮັດໄດ້ໃນແຕ່ລະວັນ ຢ່າເອົາແຕ່ແຜ່ເມດຕາ ແຕ່ຂະຫຍັນໃຫ້ບຸນນຳ (ປັດຕິທານນະໄມ)
(1) ການແຜ່ເມດຕາ ຖ້າເຮັດບໍ່ໄດ້ ຢ່າໄປເຮັດ ເພາະການແຜ່ເມດຕາ ໃນຂະນະທີ່ໂກດ ຫຼື ມີຄວາມຫງຸດຫງິດໄປພ້ອມ ບໍ່ເອີ້ນວ່າແຜ່ເມດຕາ ເບິ່ງເພີ່ມໃນເມດຕາສູດ ແລະ ຂັນທະປະຣິດ.
เมตตสูตร
ว่าด้วยการแผ่เมตตาในสัตว์ทั้งปวง
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสสอนพวกภิกษุผู้อยู่ป่าว่า
[๑๐] กิจนั้นใด อันพระอริยะบรรลุบทอันสงบ
ทำแล้ว กิจนั้นอันกุลบุตรผู้ฉลาดพึงทำ
กุลบุตรนั้น พึงเป็นผู้อาจหาญ ตรงและตรงด้วยดี
พึงเป็นผู้ว่าง่าย อ่อนโยน ไม่มีอติมานะ
พึงเป็นผู้สันโดษ เลี้ยงง่าย เป็นผู้มีกิจน้อย
ประพฤติเบากายจิต
พึงเป็นผู้มีอินทร์สงบ มีปัญญารักษาตัว เป็น
ผู้ไม่คะนอง ไม่ติดในสกุลทั้งหลาย
วิญญูชนติเตียนชนทั้งหลายอื่นได้ ด้วยกรรม
ลามกอันได้ ก็ไม่พึงประพฤติกรรมอันลามกนั้น
พึงแผ่ไมตรีจิตไปในหมู่สัตว์ว่า ขอสัตว์ทั้งปวง
จงเป็นผู้มีสุข มีความเกษม มีตนถึงความสุขเถิด
สัตว์มีชีวิตทั้งหลาย เหล่าใดเหล่าหนึ่งมีอยู่ ยัง
เป็นผู้สะดุ้ง [มีตัณหา] หรือเป็นผู้มั่นคง [ไม่มีตัณหา]
ทั้งหมดไม่เหลือเลย.
เหล่าใดยาวหรือใหญ่ ปานกลางหรือนั้น ผอม
หรืออ้วน.
เหล่าใดที่เราเห็นแล้ว หรือมิได้เห็น เหล่าใด
อยู่ในที่ไกลหรือไม่ไกล ที่เกิดแล้ว หรือที่แสวงหา
ภพเถิด.
ขอสัตว์ทั้งปวงเหล่านั้น จงเป็นผู้มีตนถึงความสุข
เถิด.
สัตว์อื่นไม่พึงข่มเหงสัตว์อื่น ไม่พึงดูหมิ่นอะไร ๆ
เขา ไม่ว่าในที่ไร ๆ เลย ไม่พึงปรารถนาทุกข์แก่กัน
และกัน เพราะความกริ้วโกรธ และเพราะความคุม
แค้น.
มารดาถนอมบุตรคนเดียวผู้เกิดในตน ด้วยชีวิต
ฉันใด พึงเจริญเมตตามีในใจไม่มีประมาณ ในสัตว์
ทั้งปวง แม้ฉันนั้น.
พึงเจริญเมตตามีในใจไม่มีประมาณ ในโลก
ทั้งปวง ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง เป็นธรรม
อันไม่คับแค้น ไม่มีเวร ไม่มีศัตรู.
ผู้เจริญเมตตานั้น ยืนก็ดี เดินก็ดี นั่งก็ดี นอน
ก็ดี เป็นผู้ปราศจากความง่วงนอน [คือไม่ง่วงนอน]
เพียงใด ก็พึงตั้งสตินั้นไว้เพียงนั้น.
ปราชญ์ทั้งหลายเรียกการอยู่นี้ว่า พรหมวิหาร
ในพระศาสนานี้.
มีเมตตา ไม่เข้าถึงทิฏฐิ [สักกายทิฏฐิ] เป็นผู้
มีศีล ถึงพร้อมด้วยทัสสนะ [สัมมาทิฏฐิในโสดาปัตติ
มรรค] นำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายออกไปได้ ก็
ย่อมไม่เข้าถึงการนอนในครรภ์อีก โดยแท้แล.
จบเมตตสูตร
๓. ขันธปริตตชาดก
ว่าด้วยพระปริตป้องกันสัตว์ร้ายต่าง ๆ
[๒๕๕] ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับตระกูลพญางู
ชื่อว่า วิรูปักขะ ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับ
ตระกูลพญางูชื่อว่า เอราปถะ ขอไมตรีจิตของ
เราจงมีกับตระกูลพญางูชื่อว่าฉัพยาปุตตะและ
ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับตระกูลพญางูชื่อว่า
กัณหาโคตมกะ ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับสัตว์
ที่ไม่มีเท้า ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับสัตว์ที่มี
๒ เท้า ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับสัตว์ที่มี ๔ เท้า
ขอไมตรีจิตของเราจงมีกับสัตว์ที่มีเท้ามาก ขอ
สัตว์ที่ไม่มีเท้า สัตว์ที่มี ๒ เท้า สัตว์ที่มี ๔ เท้า
สัตว์ที่มีเท้ามาก อย่าได้เบียดเบียนเราเลย ขอ
สัตว์ผู้ข้องอยู่ สัตว์ผู้มีลมปราณ สัตว์ผู้เกิดแล้ว
หมดทั้งสิ้นด้วยกัน จงประสบพบแต่ความเจริญ
ทั่วกัน ความทุกข์อันชั่วช้าอย่าได้มาถึงสัตว์ผู้ใด
ผู้หนึ่งเลย.
[๒๕๖] พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีพระคุณ
หาประมาณมิได้ บรรดาสัตว์เลื้อยคลาน คือ งู
แมลงป่อง ตะขาบ แมลงมุม ตุ๊กแก และหนู
เป็นสัตว์ประมาณได้ เราได้ทำการรักษาตัวแล้ว
ป้องกันตัวแล้ว ขอสัตว์ทั้งหลายจงพากันหลีก
ไป ข้าพเจ้านั่นขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค-
เจ้า ขอนอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๗
พระองค์.
จบ ขันธปริตตชาดกที่ ๓
(2) ໃຫ້ສ່ວນບຸນ (ປັດຕິທານະໄມ) ນອນຢູ່ໃນ ບຸນກະລິຍາວັດຖຸ 10 ປະການ ທຳບຸນເມື່ອໃດ ເຊັ່ນ ຊື້ຂອງໃຫ້ມານດາບິດາ ເອົາອາຫານໃຫ້ສັດ ... ໃຫ້ອຸທິດສ່ວນບຸນນັ້ນນຳ ຢ່າໄປຕະໜີຂີ້ຖີ່
ທຳບຸນອຸທິດໃຫ້ຜູ້ຕາຍ ທຳບຸນອຸທິດໃຫ້ເທວະດາ ນອນຢູ່ໃນການທຳພະລີ 5 ຢ່າງ
ทำพลี ๕ อย่าง คือ
๑. ญาติพลี [บำรุงญาติ]
๒. อติถิพลี [ต้อนรับแขก]
๓. ปุพพเปตพลี [ทำบุญอุทิศกุศลให้ผู้ตาย]
๔. ราชพลี [บริจาคทรัพย์ช่วยชาติ]
๕. เทวตาพลี [ทำบุญอุทิศให้เทวดา]
ທຳບຸນແລ້ວອຸທິດສ່ວນບຸນໃຫ້ແກ່ເທວະດາທັງຫຼາຍ ຊຶ່ງມີຢູ່ໃນປະເທດນັ້ນ (ໃນປະເທດ ໃນຈັງຫວັດ ໃນເຂດທີ່ຕົນອາໄສຢູ່ ...) ເທວະດາທັງຫຼາຍເຫຼົ່ານັ້ນ ອັນບຸຣຸດນັ້ນ ບູຊາແລ້ວ ຍ່ອມບູຊາຕອບ ເໝືອນມານດາອະນຸເຄາະບຸດຂອງຕົນ ບຸຣຸດຜູ້ທີ່ເທວະດາອະນຸເຄາະແລ້ວຈະປະສົບແຕ່ສິ່ງຈະເລີນທັງຫຼາຍໃນການທຸກເມື່ອ.
[๘๔] บุรุษผู้มีเชื้อชาติบัณฑิต เข้าไปอยู่ในประเทศใด พึงเชิญท่านพรหมจารีทั้งหลายผู้มีศีล ผู้สำรวมให้บริโภคในประเทศนั้น แล้วอุทิศทักษิณาให้แก่เทวดาทั้งหลาย ซึ่งมีอยู่ในประเทศนั้น เทวดาทั้งหลายเหล่านั้น อันบุรุษนั้นบูชาแล้ว ย่อมบูชาตอบ นับถือแล้ว ย่อมนับถือตอบ ซึ่งบุรุษนั้น เพราะเหตุนั้นเทวดาทั้งหลายจะอนุเคราะห์บุรุษเชื้อชาติบัณฑิตนั้น เหมือนมารดาอนุเคราะห์บุตรของตน บุรุษผู้ซึ่งเทวดาอนุเคราะห์แล้วจะประสบแต่สิ่งเจริญทั้งหลายในกาลทุกเมื่อ
ເທວະດາຜູ້ຄອຍຮັບພະລີກຳ ເມື່ອໄດ້ບຸນຈາກເຮົາແລ້ວຈຶ່ງຮັກສາຄຸ້ມຄອງ ເມື່ອບໍ່ໄດ້ກໍບໍ່ທຳອາລັກຂາ
...แม้เทวดาผู้คอยรับพลีมาแล้ว ตามประเพณีแห่งตระกูล ต่อได้ลาภตามกาลอันเหมาะอันควรจึงรักษาคุ้มครอง แต่เมื่อได้รับความบีบคั้นไม่ได้ตามเวลา ไม่ทำอารักขาด้วยคิดว่า พวกเหล่านี้เป็นผู้ไม่เอื้อเฟื้อในพวกเรา ดังนี้...
ໃຫ້ບຸນແກ່ເທວະດາ ເທວະດາກໍດູແລຮັກສາ ຈັດການອາລັກຂາຢ່າງດີ
...อุทิศปัจจัยสี่ที่ถวายสงฆ์คือพึงให้ส่วนบุญแก่เทวดาประจำเรือนเหล่านั้น บทว่าปูชิตา ปูชยนฺติ ความว่า เทวดาย่อมอารักขาด้วยดี ด้วยสั่งว่าผู้คนเหล่านี้แม้ไม่ใช่ญาติของเรา ก็ยังให้ส่วนบุญแก่พวกเราถึงอย่างนี้ เพราะฉะนั้น พวกท่านจงจัดการอารักขาด้วยดี...
ທຳບຸນອຸທິດໃຫ້ແກ່ຍາດ (ທີ່ເປັນເປຣດ)
...ฐานะที่จะพึงว่างจากญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้วโดยกาลช้านานเช่นนี้ มิใช่ฐานะมิใช่โอกาสที่จะมีได้ อีกประการหนึ่ง แม้ทายกก็เป็นผู้ไม่ไร้ผล...
ທຳບຸນອຸທິດໃຫ້ມານດາບິດາທີ່ລ່ວງລັບໄປແລ້ວ
...[๑๙๙] ดูก่อนคฤหบดีบุตร มารดาบิดา เป็นทิศเบื้องหน้า อันบุตรธิดาพึงบำรุงด้วยสถาน ๕ คือ ด้วยตั้งใจว่า ท่านเลี้ยงเรามา เราจักเลี้ยงท่านตอบ ๑ จักรับทำกิจของท่าน ๑ จักดำรงวงศ์ตระกูล ๑ จักปฏิบัติตนให้เป็นผู้สมควรรับทรัพย์มรดก ๑ เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน ๑...
ໃຫ້ເຈົ້າກັມນາຍເວນນຳ ນອກຈາກນີ້ ໃຫ້ສ່ວນລວມທັງປວງນຳ
...ภิกษุทั้งหลายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเธอทำการฟังธรรมใหญ่ก็ดี การฟังธรรมตามปกติก็ดี กล่าวอุปนิสินนกถาก็ดี โดยที่สุดแม้การอนุโมทนา แล้วพึงให้ส่วนบุญแก่สัตว์ทั้งหลาย ทั้งปวงด้วย...
ເພາະການໃຫ້ບຸນ ບຸນບໍ່ໝົດ ຫຼື ບໍ່ຫຼຸດລົງ ມີແຕ່ໄດ້ເພີ່ມ ທັງເປັນການອົບຮົມຕົນເອງໃຫ້ຮູ້ຈັກສະຫຼັດອອກ ບໍ່ຍຶດຖື